วันศุกร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2554

อาหารกับการล้างพิษ

อาหารกับการล้างพิษ

ในการเรียนรู้และทำความเข้าใจเรื่องการล้างพิษเราจำเป็นต้องศึกษาเรื่องของ อาหารประกอบกันไปด้วย เนื่องจากกระบวนการล้างพิษมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับอาหาร เราต้องเรียนรู้ว่าอาหารแบบใดเหมาะสมกับเรา อาหารแบบใดให้คุณค่า และเอื้อต่อการขจัดสารพิษจากร่างกายและอาหารประเภทใดที่เราควรหลีกเลี่ยง เพื่อลดโอกาสการเกิดพิษในร่างกายให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าการเรียนรู้ก็คือ การปฏิบัติตามเพราะไม่ว่าเราจะมีข้อมูลที่ดีเพียงใด แต่ถ้าไม่เรานำข้อมูลที่ได้มาใช้ก็จะไม่เกิดประโยชน์เลย เมื่อได้เรียนรู้เรื่องอาหารแล้ว เราต้องปรับนิสัยการกินให้ได้ ด้วยการเลิกกินอะไรตามใจปากอีกต่อไป การทานอาหารอย่างถูกต้องเหมาะสม บางครั้งอาจไม่ได้ทำให้คุณรู้สึกดีขึ้น เพราะคุณคาดหวังว่าจะได้เห็นผลในทันที ความคิดเช่นนี้เป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้หลายคนท้อถอยกับการเปลี่ยนแปลง พฤติกรรมการกิน ขอให้คุณนึกเอาไว้เสมอว่า แม้จะยังไม่เห็นผลในวันนี้ แต่ก็จะเกิดผลดีต่อสุขภาพในวันข้างหน้า เรื่องของสุขภาพบางครั้งจึงต้องอาศัยความอดทนด้วย
คุณควรปรับนิสัยการกินให้ถูกต้องอยู่เสมอ ไม่ใช่ปรับเฉพาะช่วงเวลาที่คุณอยู่ในโปรแกรมการล้างพิษเท่านั้น แต่ควรทำทั้งก่อน หลังการล้างพิษ และถ้าเป็นไปได้ก็ควรทำเป็นประจำทุกๆวันเรื่อยไป ด้วยวิธีง่ายๆ โดยการเลือกทานคาร์โบไฮเดรตจากข้าวก้องหรือข้าวไม่ขัดสี ผักผลไม้สดปลอดสาร ทานเนื้อสัตว์ในปรมาณน้อย ทานโปรตีนจากพืช เมล็ดถั่วและปลาแทน ใช้น้ำมันรำข้าวแทนน้ำมันชนิดอื่นในการประกอบอาหาร เป็นต้น


อาหารล้างพิษ
อาหารล้างพิษ เป็นอาหารที่เรารับประทานในขฯที่อยู่ในโปรแกรมล้างพิษ และอาหารบางอย่างควรพยายามรับประทานอย่างสม่ำเสมอในชีวิตประจำวันด้วย เพื่อเป็นการปรับสภาพร่างกาย และช่วยลดการเกิดพิษต่อไป

อาหารล้างพิษ แบ่งเป็นกลุ่มๆได้ดังนี้
กลุ่มผลไม้สด
ในการล้างพิษจะขาดผลไม้สดไม่ได้เลย เนื่องจากผลไม้สดเป็นแหล่งสะสมของสารอาหารที่ทรงคุณประโยชน์อุดมไปด้วย วิตามินแร่ธาตุ ใยธรรมชาติ กรดอะมิโน และเอนไซม์นานาชนิด ซึ่งล้วนแล้วแต่จำเป็นต่อการล้างพิษและจำเป็นในชีวิตประจำวันด้วย

ผลไม้ประเภทส้ม
ผลไม้สดประเภทนี้มีวิตามินซีอยู่ในปริมาณสูง โดยวิตามินซีเป็นสารต่อต้านการทำปฏิกิริยาระหว่างเซลล์ เนื้อเยื่อ กับออกซิเจน(อนุมุลอิสระ) ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด จึงสามารถต่อต้านความชรา ลดอัตราเสี่ยงของโรคมะเร็ง โรคหัวใจ และช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีขึ้น
มะนาว จัดเป็นผลไม้ประเภทส้ม ตัวทำความสะอาดได้ดีที่สุด สรรพคุณในการฆ่าเชื้อ และสมานแผลของมะนาวช่วยกระตุ้นการทำงานของตับ และถุงน้ำดี การผสมมะนาวคั้นสดๆในน้ำสะอาดหนึ่งแก้วในตอนเช้าเป็นการช่วยทำความสะอาดร่าง กายได้
น้ำส้มค้นสดๆ ผสมกับน้ำเกรฟฟรุตคั้นสดๆมีประโยชน์ในการกระตุ้นระบบย่อยอาหาร และช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกายได้ทั้งระบบ และยังเป็นแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน ฟอสฟอรัส และโปแตสเซียม

• แอปเปิล

ผลไม้ที่ดีสุดสำหรับการขจัดของเสียก็คือ แอปเปิล เพราะมีกรดเมลิก และกรดทาร์ทาริก ซึ่งมีสรรพคุณในการช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหาร และขจัดสารพิษในตับ สารเพ็คตินที่มีจำนวนมากในแอปเปิลสามารถช่วยจับโลหะที่มีน้ำหนัก เช่น ตะกั่วและฟรุคโต๊ส น้ำตาลธรรมชาติที่มีในแอปเปิลช่วยให้พลังงานแก่ร่างกายอย่างต่อเนื่อง

• ลูกแพร์
ลูกแพร์ช่วยบำรุงผิวพรรณ และช่วยให้เส้นผมเงางามเป็นมันวาวหากรับประทานเป็นประจำ ลูกแพร์เป็นยาขับปัสสาวะ และเป็นยาระบายที่มีประสิทธิภาพด้วย

• องุ่น
องุ่นเป็นผลไม้ที่มีประสิทธิภาพสูงในการขจัดสารพิษในร่างกาย ช่วยบำบัด และรักษาโรคท้องผูก โรคไต โรคตับ ระบบย่อยอาหาร และช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ผิวหนัง

• มะม่วง
ผลไม้ที่เมื่อสุกแล้วมีเนื้อนุ่ม รสหวานเช่นมะม่วงนี้นอกจากจะอร่อยแล้ว ยังสามารถช่วยทำความสะอาดระบบเลือด และช่วยกระตุ้นการทำงานของไต และหลอดอาหาร

• สับปะรด
มีเอนไซม์โปรเมลินสูง ช่วยการทำงานของกรดไฮโดรคลอริกในกระเพาะ ช่วยทำให้ของเสียที่เป็นโปรตีนแตกตัวได้เร็วขึ้น สับปะรดช่วยรักษาอาการอักเสบในทางเดินอาหาร ช่วยในการซ่อมแซมส่วนต่างๆที่สึกหรอ ช่วยการทำงานของต่อมไร้ท่อ และช่วยกำจัดน้ำมูก

• มะละกอ
มะละกอเป็นเอนไซม์ชื่อปาเปน ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับน้ำย่อยเปปซิน ในกระเพาะอาหาร จึงช่วยทำให้ของเสียที่เป็นโปรตีนแตกตัวได้เร็วขึ้น ดีสำหรับทำความสะอาดลำไส้และช่วยย่อยอาหาร

• แตงโม
แตงโมมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ จึงช่วยฟอกล้างร่างกายได้เป็นอย่างดี ช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร ลดความดันเลือด ช่วยให้สบายท้อง


กลุ่มผลไม้แห้ง

ผลไม้แห้งบางชนิดให้พลังงานสูง และให้ประโยชน์ต่อการล้างพิษด้วย เช่น อินทผลัม ลูกเกด สับประรด มะม่วง มะละกอ จึงเมาะใช้เป็นอาหารว่างมื้อเบาๆในระหว่างการล้างพิษ การเลือกซื้อผลไม้แห้งควรเลือกที่ไม่ผสม หรือเคลือบน้ำตาล เนื่องจากตัวผลไม้แห้งเองนั้นมีน้ำตาลตามธรรมชาติในปริมาณที่สูงอยู่แล้ว และในโปรแกรมการล้างพิษไม่ต้องการปริมาณน้ำตาลที่สูงเกินไป

กลุ่มผักสด

ผักสดเป็นแหล่งอาหารที่จะขาดไม่ได้เลยในการล้างพิษ เนื่องจากในผักสดมีสารอาหารที่จำเป็นประเภทวิตามิน แร่ธาตุ ไบโอฟลานอยด์ และสารไฟโตเคมีอื่นๆ และมีสรรพคุณในการบำบัด ผักสดจึงเป็นพระเอกตัวสำคัญในการล้างพิษเพื่อสุขภาพ

• แครอท
หัวแครอท ได้รับการยกย่องว่าเป็นราชินีแห่งผักด้วยความสามารถในการทำความสะอาดร่างกาย ฟื้นฟูพลังงาน และช่วยกระตุ้นการทำงานของร่างกายทุกระบบ แครอทอุดมไปด้วยสารเบต้าแคโรทีน ช่วยลดอัตราเสี่ยงของโรคมะเร็ง โดยหากรับประทานแครอทหนึ่งหัวเป็นประจำทุกวัน จะช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งปอดได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์
• บีทรูท
บีทรูทมีประสิทธิภาพสูงในการทำความสะอาดตับมีประโยชน์ต่อระบบเลือด และยังเป็นยาระบายได้ดี นอกจากนี้บีทรูทยังอุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน แคลเซี่ยม และธาตุเหล็ก
• ผักในตระกูลครูซิเฟอรัส
ผักประเภทนี้มีใยเป็นรูปกากบาท หรือไม้กางเขน ได้แก่ หน่อบรัสเซลล์ บร็อคโคลี่ กระหล่ำดอก กระหล่ำปลี ผักคะน้า และผักกระเฉด ผักเหล้านี้มีฉายาว่าเป็นนักทำความสะอาดที่เก่งกาจ และยังสามารถช่วยกระตุ้นการทำงานของตับ และเป็นศูนย์รวมของสารไฟโตรเคมีที่มีประสิทธิภาพในการต่อต้านโรคมะเร็ง โดยเฉพาะ
บร็อคโคลี่นั้น อุดมไปด้วยวิตามินบี วิตามินซี แคลเซี่ยม กรดโฟลิก ธาตุเหล็ก ดปแตสเซียม และสังกะสี
• ผักโขม
เราพบว่าผักโขมเป็นแหล่งอาหารที่ประกอบไปด้วยสารขจัดอนุมูลอิสระนานาชนิด และยังมีเบต้าแคโรทีน วิตามินซี แคลเซียม กรดโฟลิก ธาตุเหล็ก โปแตสเซียม เธียมิน และสังกะสี จึงแนะนำผักโขมให้เป็นอาหารเพื่อการล้างพิษของคุณด้วย
• กระเทียมและหัวหอม
อาหารที่มีกลิ่นฉุนทั้งสองประเภทนี้มีสารที่ช่วยต่อต้านเชื้อไวรัส และแบคทีเรีย ช่วยทำความสะอาดร่างกายลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด และช่วยต่อต้านมะเร็ง อีกทั้งยังกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน และต่อต้านการอักเสบอย่างได้ผล โดยควรทานสดๆ ดดยไม่ผ่านการปรุงสุก เนื่องจากสารอาหารในหัวหอมจะถุกทำลายโดยความร้อน

กลุ่มเมล็ดพืชและผลไม้เปลือกแข็ง

สารอาหารเปี่ยมคุณค่าที่มีอยู่ในเมล็ดพืชและผลไม้เปลือกแข็งนั้น มีสรรพคุณในการช่วยลดอาการเสี่ยงของโรคหัวใจและโรคมะเร็ง ทั้งยังมีวิตามินอีที่ช่วยบำรุงผิวพรรณ เส้นผม และเล็บให้มีสุขภาพดีอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น อัลมอนด์ เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ งา ถั่วคาชิโอ เมล็ดฟักทอง เมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวัน วอลนัท เฮชนัท และถั่วลิสง ล้วนให้ประโยชน์และความอร่อย โดยจะรับประทานเป็นของว่างหรือผสมอาหารทานก็ได้ โดยปริมาณที่พอเหมาะในแต่ละวัน คือ ประมาณ 1 กำมือ เนื่องจากผลไม้เปลือกแข็งเป็นแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยไขมันจึงต้องรับประทาน ในปริมาณที่พอเหมาะ

• ถั่วเมล็ดแห้ง

ถั่วเมล็ดแห้งเป็นอาหารจากพืชที่มีโปรตีนสูง โดยเฉพาะถั่วเหลืองมีโปรตีนสูงกว่าถั่วชนิดอื่น โปรตีนในถั่วเมล็ดแห้งมีคุณภาพสูงมาก แต่เนื่องจากถั่วเหลือง และถั่วอื่นๆ ทั่วไปมีกรดอะมิโนบางชนิดต่ำ แต่เป็นแหล่งอาหารที่ดีของกรดอะมิโนบางชนิดที่มีน้อยในข้าว ดังนั้น เพื่อให้ได้คุณค่าโปรตีนอย่างสมบูรณ์ จึงควรทานเมล็ดพืชร่วมกับธัญพืชแบบไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง หรือเมล็ดพืชชนิดอื่นเช่น งา เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง จะช่วยเสริมให้กรดอะมิโนครบถ้วน สมบูรณ์
ถั่วเมล็ดแห้งมีใยอาหารสูง โดยมีทั้งชนิดที่ละลายในน้ำ และไม่ละลายในน้ำ ชนิดที่ไม่ละลายในน้ำจะช่วยเพิ่มปริมาณกากอาหาร และสามารถอุ้มน้ำ ช่วยให้การขับถ่ายเป็นปกติ ลดความเสี่ยงของมะเร็งที่ลำไส้ใหญ่และลดการเกิดริดสีดวงทวารได้ ส่วนเส้นใยชนิดที่ละลายในน้ำได้นั้น ช่วยให้ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดต่ำลง โดยเส้นใยสามารถจับกับน้ำดีที่ประกอบไปด้วยคอเลสเตอรอล แล้วขับออกจากร่างกาย แทนที่จะดูดซึมกลับเข้าไป ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ และถาวะหัวใจล้มเหลว
จากการศึกษาพบว่า ถั่วเหลือง และผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง มีสารสังเคราะห์จากพืชธรรมชาติชื่อฟลาโวนอยด์ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ และสารอีกตัวที่ชื่อไฟโตเอสโตรเจน ที่มีการทำงานเหมือนฮอร์โมนเพศหญิงจึงช่วยลดอาการของหญิงวัยหมดประจำเดือน ได้

กลุ่มข้าวกล้องและข้าวที่ไม่ผ่านกระบวนการขัดสี

เป็นเวลานับพันๆปีแล้ว ที่ข้าวกล้อง และข้าวที่ไม่ผ่านกระบวนการขัดสีอื่นๆ ได้เป็นแหล่งอาหารสำคัญของมนุษย์ และมีปลูกทั่วโลก
เราจัดข้าวกล้องอยู่ในกลุ่มแห่งอาหารที่มีโปรตีนไขมันต่ำ ไม่เพียงเท่านั้น ข้าวกล้องยังประกอบไปด้วย คาร์โบไอเดรตเชิงซ้อน ใยธรรมชาติ วิตามิน และแร่ธาตุหลากหลายชนิดที่มีสรรพคุณในการกระตุ้นพลังงานในระหว่างที่อยู่ใน โปรแกรมล้างพิษอีกด้วย
ข้าวกล้องมีสรรพคุณช่วยบำบัดความผิดปกติของระบบย่อยอาหาร ช่วยทำให้ระบบประสาทสงบลงและช่วยลดอัตราเสี่ยงของโรคมะเร็งลำไส้ ข้าวโอ๊ตช่วยดูดซึมสิ่งแปลกปลอมในเลือด ช่วยทำให้เลือดสะอาดทำให้ผิวพรรณมีสุขภาพดีขึ้น
ใยอาหารธรรมชาติที่มีในข้าวกล้อง และข้าวที่ไม่ผ่านกระบวนการขัดสีมีทั้งชนิดที่ละลายน้ำได้ และละลายไม่ได้ มีสรรพคุณในการป้องกันโรคท้องผูก บำบัดและบรรเทาโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ และลำไส้ตรง (ลำไส้ส่วนที่อยู่ใกล้ทวารหนัก ) การบริโภคอาหารที่มีเส้นใยธรรมชาติสูงจะช่วยจับคอเลสเตอรอลที่เป็นอันตราย และช่วยกำจัดของเสียออกจากร่างกายได้อย่างยอดเยี่ยม
• จมูกข้าวหรือวีทเจอร์ม
เป็นส่วนที่จะงอกของข้าวสาลีที่ถูกขัดออกมาวีทเจอร์มเป็นแหล่งรวมของ วิตามินบีรวม ธาตุเหล็ก สังกะสี และวิตามินอี การทานวีทเจอร์ม อาจผสมกับนม โยเกิร์ต หรือโรยบนโจ๊ก
ระวัง ! ข้าวสาลี แม้ข้าวสาลีจะเป็นข้าวที่ไม่ผ่านกระบวนการขัดสี แต่ข้าวสาลีมีส่วนประกอบของสารก่อภูมิแพ้ที่อาจรบกวนประสิทธิภาพในการดูดซึม สารอาหารบางชนิด ดังนั้นจึงควรงดรับประทานข้าวสาลีชั่วคราวในระหว่างการล้างพิษ
• โยเกิร์ต โยเกิร์ตนับเป็นอาหารมหัศจรรย์อย่างหนึ่งที่ช่วยให้ร่างกายสามารถคงความอ่อน เยาว์ได้ยาวนานขึ้นทำให้อายุยืนขึ้น โยเกิร์ตช่วยทำให้ผิวพรรณผ่องใส ทำให้จิตใจสบาย ไม่หงุดหงิดเศร้าซึม นอกจากนี้แบคทีเรียในดยเกิร์ตจะช่วยผลิตวิตามินบี ไอนอสซิทอลที่ช่วยป้องกันผมร่วง ทำให้วิตามินบีแพร่กระจายไปทั่วร่างกายได้อย่างรวดเร็วโยเกิร์ตยังเป็นอาหาร ที่ดีสำหรับผู้ป่วยอีกด้วยเพราะช่วยขจัดสิ่งที่บูดเน่าในลำไส้ได้ การทานโยเกิร์ตให้ได้คุณค่ามากที่สุดคือ เลือกทานแบบรสธรรมชาติ โดยอาจเติมผลไม้สดลงไปได้ตามชอบ

การปรับระดับกรด ด่างของอาหารให้สมดุล
อาหารทุกอย่างที่คนเราทานเข้าไปในแต่ละวันนั้นจะผ่านการหมุนเวียนในร่างกาย แล้วแปรสภาพเป็น กรด ด่าง ซึ้งทั้งกรด และด่างนี้ควรได้รับการควบคุมให้สมดุล เพื่อให้ร่างกายทำงานได้อย่างปกติ ถ้าหากเราไม่สามารถรักษาสภาพกรด และด่างให้อยู่ในภาวะสมดุลได้ ร่างกายก็จะเกิดปัญหา ทำให้เกิดโรคต่างๆมากมาย
อาหารประเภทกดได้แก่ เนื้อสัตว์ อาหารทะเล ไข่ ธัญพืช ขนมหวาน กาแฟ ชา ส่วนอาหารประเภทด่าง ได้แก่ ผัก ผลไม้ ถั่ว นม
รูบแบบการดำรงชีวิตในปัจจุบันทำให้เราบริโภคอาหารประเภทกรดมากเกินไปโดยไม่ รู้ตัวทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานหนักขึ้น ปริมาณกรดในเส้นเลือดสูงขึ้นทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย วิตกกังวล นอนไม่หลับ เกิดโรคผิวหนัง ท้องผูก เมื่ออาการหนักขึ้นจะทำให้เป็นโรคเส้นเลือดอุดตัน ความดันโลหิตสูง กระเพาะอาหารเป็นแผล เป็นต้น
นักธรรมชาติบำบัดเสนอความเห็นว่าควรรักษาอัตราส่วนระหว่างกรดและด่างให้ได้ ประมาณ 2 : 8 โดยทานเนื้อสัตว์และธัญพืช เพียง 20 เปอร์เซ็น และทานผักผลไม้และถั่วให้ได้ 80 เปอร์เซ็น

อาหารที่ควรงดระหว่างการล้างพิษ

1. ลูกกวาด ลูกอมทุกชนิด
2. ขนมปังขาว ข้าวขัดขาว
3. ผลไม้ประป๋อง
4. น้ำอัดลม
5. ช็อกโกแลต
6. ไอศกรีม
7. เครื่องดื่มบำรุงกำลัง
8. เค้ก คุกกี้ ขนมปังอบกรอบ
9. ขนมขบเคี้ยวต่างๆ
10. แอลกอฮอล์
11. ขนมที่สีสันฉูดฉาด
12. อาหารขยะ 13. น้ำตาลทรายขาว

อาหารเหล่านี้ต้องงดอย่างเด็ดขาดในระหว่างการล้างพิษ และควรบริโภคให้น้อยที่สุดในชีวิตประจำวัน

เครื่องดื่มเพื่อการล้างพิษ
ในร่างกายของเราประกอบไปด้วยของเหลวประมาณร้อยละ 80 ร่างกายจึงต้องการน้ำเพื่อใช้ในระบบต่างๆ และเพื่อให้การทำงานของร่างกายดำเนินไปด้วยดี นอกจากนี้น้ำยังช่วยนำพาของเสียออกจากร่างกายในการล้างพิษจึงต้องอาศัยน้ำ เป็นตัวช่วยที่สำคัญ
นอกเหนือจากน้ำสะอาดแล้ว น้ำสมุนไพร และน้ำผัก ผลไม้ ถือเป็นเครื่องดื่มที่ให้ประโยชน์แก่สุขภาพ มีคุณค่าทางยา คุณค่าทางอาหาร ช่วยให้ร่างกายและจิตใจสดชื่น กระชุ่มกระชวย ช่วยบำรุงโลหิต ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ช่วยล้างไขมันอันตรายออกจากระบบเลือด และยังมีวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ ที่ช่วยให้ร่างกายดูดซึมคุณค่าสารอาหารจากแหล่งอื่นๆด้วย
ในระหว่างการล้างพิษ จึงควรดื่มพวกน้ำสมุนไพรและน้ำผัก ผลไม้ เนื่องจากในระหว่างการงดอาหารจะมีของเสียและพิษตกค้างต่างๆเป็นจำนวนมากถูก ขับเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้เลือดมีฤทธิ์เป็นกรด จึงจำเป็นต้องดื่มน้ำผัก ผลไม้ที่มีฤทธิ์เป็นด่าง เพื่อสร้างสมดุลในระบบชีวเคมีของเลือด ช่วยให้กล้ามเนื้อหัวใจทำงานำได้ดีขึ้น ช่วยเสริมให้ร่างกายขับพิษและสิ่งตกค้าง และเร่งการผลัดเซลล์ใหม่ ทำให้ผู้ล้างพิษหายจากความเจ็บป่วย และช่วยฟื้นฟูสุขภาพ รวมทั้งช่วยให้ระบบประสามและภาวะจิตใจเกิดการผ่อนคลาย สมดุล ต่อมต่างๆจะทำหน้าที่หลั่งเคมี และผลิตฮอร์โมนอย่างเหมาะสม จึงทำให้การล้างพิษเป็นไปอย่างราบรื่นและได้ผลสูงสุด

น้ำผักผลไม้

- น้ำลูกยอ เป็นยาระบาย แก้อาเจียน แก้ร้อนใน บำรุงธาตุ ช่วยเจริญอาหาร ลดความดันโลหิตสูง ต้านมะเร็ง
- น้ำแตงกวา มีวิตามินซี แคลเซี่ยม ฟอสฟอรัส และธาตุเหล็ก ขับปัสสาวะ บำรุงผิว ให้พลังงาน แก้ร้อนในกระหายน้ำ
- น้ำบีทรูท กระตุ้นการทำงานของตับ บำรุงเลือด ยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอกมะเร็ง
- น้ำมะม่วง มีวิตามินเอ และซีสูง ช่วยบำรุงสายตา บำบัดโรคเกี่ยวกับเหงือกและฟัน และยังประกอบไปด้วย ฟอสฟอรัส แคลเซียม และธาตุเหล็กอีกด้วย
- น้ำเซลลารี มีวิตามินเอ อี ซี แคลเซียม ฟอสฟอรัส โปตัสเซียม และธาตุเหล็ก ลดไขมัน ลดคลอเลสเตอรอล ลอความดันโลหิตสูง บำรุงสมอง บำรุงประสาท
- น้ำสะระแหน่ มีวิตามินเอ และซี สูง คาร์โบไฮเดรต ฟอสฟอรัส แคลเซียม และธาตุเหล็กแก้ปวดศรีษะ เจ็บคอ มีสารเมนทอล ทำให้ชุ่มคอ ขับลมในกระเพาะอาหารและลำไส้
- น้ำเสาวรส มีวิตามินซี น้ำตาล และกรดอินทรีย์
- น้ำข้าวโพด มีวิตามินเอ แคลเซียม แมกนิเซียม ฟอสฟอรัส น้ำตาล คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ช่วยขับปัสสาวะ
- น้ำว่านหางจระเข้ รักษาแผลในกระเพาะอาหาร ใช้สมานแผล เป็นยารักษาริดสีดวงทวาร
- น้ำตำลึง ช่วยลดไข้ ขับเสมหะ แก้ปวดแสบปวดร้อน แก้ลม หน้ามืด ตาลาย วิงเวียน บำรุงหัวใจ
- น้ำมะระจีน มีวิตามินเอ วิตามินซี คาร์โบไฮเดรต โปรตีน แคลเซียม ฟอสฟอรัสทำให้เจริญอาหาร บำรุงร่างกาย
- น้ำมะขาม มีกรดอินทรีย์สูง วิตามินซี คาร์โบไฮเดรต แคลเซียม ฟอสฟอรัส ไขมัน เป็นยาระบาย แก้ไอ
- น้ำมะเขือเทศ มีวิตามินเอ บี ซี ฟอสฟอรัส แคลซียม ธาตุเหล็ก ช่วยทำให้การย่อยอาหารดีขึ้น ช่วยระบาย และช่วยฟอกเลือด
- น้ำใบบัวบก แก้ร้อนใน แก้ช้ำใน กระหายน้ำ บำรุงหัวใจ ขับปัสสาวะ
- น้ำแครอท มีสารต้านมะเร็งในกระเพาะอาหารและลำไส้มีคาร์โบไฮเดรต แคลเซียม โปรตีน ฟอสฟอรัส เส้นใย และธาตุเหล็ก

น้ำสมุนไพร

- ชามะตูม มีวิตามินเอ แคลเซียม ฟอสฟอรัส น้ำตาล น้ำมันหอมระเหย ช่วยระบายท้อง บำรุงธาตุ ขับลม
- ชาขิง ขิงเต็มไปด้วยน้ำมันหอมระเหย ธาตุแคลเซียม และสารเบต้าแคโรทีน ช่วยขับลม แก้ท้องอืด จุกเสียด คลื่นไส้อาเจียน แก้ไอ ขับเสมหะ แก้คอแห้ง เจ็บคอ
- ชาส้มป่อย มีวิตามินซีสูง ขับเสมหะ แก้ไอ แก้บิด ฟอกโลหิต
- ชาหญ้าแพรก แก้ไข้ ท้องเสีย ขับลมในกระเพาะอาหารและลำไส้
- ชาชะเอม บรรเทาอาการไอ ขับเสมหะ ลดอาการอักเสบของกระเพาะอาหาร ลดอาการแพ้ ลดพิษของสารเคมี ยับยั้งการหลั่งสารฮีสตามีน ทำให้ชุ่มคอ
- ชาหญ้าหนวดแมว มีส่วนประกอบของสารโปแตสเซียมสูงมาก มีกรดไขมันที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยลดปริมาณน้ำตาลในเลือด จึงเหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน อีกทั้งสามารถขับกรดยูริก บรรเทาอาการปัสสาวะไม่ปกติ บรรเทาอาการปวดจากโรคนิ่ว ช่วยทำให้ขนาดของก้อนนิ่วลดลงได้ บรรเทาอาการปวดหลัง ปวดเอว
- ชาตะไคร้ แก้ปวดท้อง ขับปัสสาวะ บำรุงธาตุ ขับเหงื่อ แก้ท้องอืด ลดความดัน รักษานิ่ว
- ชาฟ้าทะลายโจร แก้โรคบิด ท้องร่วง แก้ไอ เจ็บคอ บำรุงร่างกาย บำรุงโลหิต
- ชามะขามแขก เป็นยาระบายอ่อนๆ ขับลม ในลำไส้ แก้ริดสีดวง
- น้ำกระชายดำ บำรุงหัวใจเป็นยาอายุวัฒนะ บำรุงกำลัง แก้ใจสั่น ช่วยขับลม ขับปัสสาวะ แก้บิดมูกเลือด แก้ท้องเดิน
- น้ำเก๋าเกี้ย ประกอบไปด้วยโปรตีน วิตามินเอ ซีและบี 2 ลดอาการเมื่อยล้า และพร่ามัวของสายตา มีธาตุเหล็ก แคลเซียม ฟอสฟอรัส และกรดอะมิโนหลายชนิด บำรุงกระดูก ขับลมในกระเพาะอาหาร ลออาการปวดหลัง ปวดเอว ลดความเครียด และวิงเวียนศีรษะ ช่วยให้หลับสบาย
- ชาคำฝอย ช่วยลดคอเลสเตอรอล และไขมันในเส้นเลือด บำรุงระบบการไหลเวียนของโลหิต
- น้ำเตยหอม อุดมไปด้วยสารแอนโธไซยานิน ช่วยบำรุงหัวใจ แก้กระหาย ทำให้ชุ่มคอ บรรเทาอาหารอ่อนเพลีย รากของเตยหอมช่วยลดปริมาณน้ำตาลในเลือด


อ่านบทความถัดไป >> การออกกำลังกายเพื่อการล้างพิษ

อ่านบทความก่อนหน้า >> ข้อห้ามของการล้างพิษ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น